วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554
วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ทำไมต้อง Google Chrome
ทำไมต้อง Google Chrome
เราพูดได้เต็มปากว่าเว็บเบราว์เซอร์เป็นส่วนสำคัญที่สุดของซอฟต์แวร์บนคอมพิวเตอร์ของคุณ เนื่องจากคุณใช้เวลามากมายไปกับการออนไลน์ผ่านเบราว์เซอร์ เพื่อค้นหาข้อมูล แชท รับส่งอีเมล ซื้อสินค้า ทำธุรกรรมทางธนาคาร อ่านข่าวสารหรือดูวิดีโอออนไลน์ คุณมักจะทำทุกอย่างนี้ผ่านเบราว์เซอร์ทั้งสิ้นเร็ว
Chrome ออกแบบมาเพื่อให้มีความเร็วในทุกด้าน ได้แก่ เริ่มต้นใช้งานจากเดสก์ท็อปของคุณได้ทันที โหลดหน้าเว็บได้ทันใจ และเรียกใช้เว็บแอปพลิเคชันที่ซับซ้อนได้รวดเร็ว เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Chrome กับความเร็ว
เรียบง่าย
หน้าต่างเบราว์เซอร์ของ Chrome มีขนาดเหมาะสม สะอาดตาและเรียบง่าย
Chrome ยังมีคุณลักษณะต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพและความง่ายในการใช้งาน ตัวอย่างเช่น คุณสามารถค้นหาและนำทางจากช่องเดียวกัน และจัดเรียงแท็บอย่างที่คุณต้องการได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
ปลอดภัย
Chrome ออกแบบมาเพื่อให้คุณท่องเว็บได้ปลอดภัยมากขึ้น โดยมีการป้องกันมัลแวร์และฟิชชิงในตัว พร้อมการอัปเดตอัตโนมัติที่จะทำให้คุณมั่นใจว่าเบราว์เซอร์ได้รับการอัปเดตอยู่เสมอ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณลักษณะความปลอดภัยของ Chrome
และคุณลักษณะอื่นๆ
Chrome มีคุณลักษณะที่มีประโยชน์อยู่ในตัวมากมาย รวมถึงการแปลในเบราว์เซอร์ แอปพลิเคชัน ส่วนขยาย ธีม และอื่นๆ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณลักษณะใหม่ล่าสุดและเป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดของ Chrome
เรียนรู้เพิ่มเติม
เบราว์เซอร์คืออะไร
เว็บเบราว์เซอร์คือแอปพลิเคชันที่คุณใช้ในการดูเว็บไซต์ ดูวิดีโอความยาว 1 นาทีเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม
ไปที่ Whatbrowser.org
อ่านเกี่ยวกับเทคโนโลยี
ดูเบื้องหลังการทำงานของ Google Chrome และเรียนรู้เกี่ยวกับการตัดสินใจด้านวิศวกรรมที่สำคัญ:
หนังสือการ์ตูนโดย Scott McCloud
วิดีโอโดยทีมพัฒนา
การทำงานของ Google Chrome
สำรวจการทดลองบนเว็บแบบโต้ตอบสำหรับ Google Chrome ที่สร้างสรรค์โดยนักออกแบบ JavaScript และโปรแกรมเมอร์จากทั่วโลก
สนุกกับการทดลองบน Chrome
ที่มาhttp://www.google.com/chrome/intl/th/more/index.html
วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ความรู้เรื่องgoogle
Google Search
- การค้นหาด้วยเครื่องหมายคำพูด ("...")
เหมาะสำหรับการค้นหาคำ Keyword ที่มีลักษณะเป็น ประโยควลีหรือกลุ่มคำ ที่ผู้ใช้ต้องการให้แสดงผลทุกคำในประโยค โดยไม่แยกคำ เช่น ถ้าผู้ใช้ต้องการหาเว็บไซต์เกี่ยวกับเพลงที่มีชื่อว่า If I Let You Go ให้พิมพ์ว่า " If I Let You Go" Google จะทำการค้นหาประโยค " If I Let You Go" ทั้งประโยคโดยไม่แยกคำค้นหา
- Google ค้นหาไฟล์ได้
ขอบข่ายความรู้เรื่อง Google Search
- เทคนิคการค้นหาข้อมูลด้วย Google แบบพิเศษ- Google ค้นหาไฟล์ได้
- เว็บไซต์ที่ถูกลบไปแล้ว Google ก็ยังค้นหาได้อยู่
- ค้นหาหน้าเว็บที่มีข้อมูลคล้ายกันได้
- Google สามารถค้นหาเว็บทั้งหมดที่เชื่อมมายังเว็บนั้นได้
- Google สามารถหาคำเฉพาะเจาะจงในเว็บไซต์นั้นๆ ได้
- ค้นหาแบบวัดดวงกันบ้าง
- ค้นหาบทสรุปของหนังสือก่อนตัดสินใจซื้อ
- ใช้ Google แทนเครื่องคิดเลขได้
- ค้นหาความหมายหรือนิยามของศัพท์เฉพาะ(เป็นภาษาอังกฤษ)
- ค้นหาเว็บไซต์รวมรูปดีๆ
- ค้นหารีวิวภาพยนตร์สนุกๆ
- ค้นเนื้อหาข้อมูลในเว็บไซต์ที่ต้องการ
1. Google Search คืออะไร ?
Google Search เป็นเครื่องมือที่ให้บริการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต( Search Engine) ของเว็บไซต์ Google.com ที่โด่งดังที่สุดในปัจจุบันครับ ผู้ใช้งานเพียงเข้าเว็บไซต์ www.Google.com จากนั้นพิมพ์คำหรือข้อความ( Keyword) เกี่ยวกับเรื่องที่ต้องการค้นหา เพียงชั่วอึดใจหลังกดปุ่ม Enter Google Search ก็จะแสดงเว็บไซต์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ Keyword เหล่านั้นทันที
ไม่เฉพาะแต่เพียงการค้นหาข้อมูลในรูปของเว็บไซต์เท่านั้น Google Search ยังสามารถค้นหาข้อมูลที่เป็นไฟล์รูปภาพ( Images) , กลุ่มข่าว( News Groups) และ สารบบเว็บ( Web Directory) ได้อย่างแม่นยำอย่างน่าทึ่งอีกด้วย ปัจจุบันเว็บไซต์ Google ได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้ที่ต้องการค้นหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ โดยมีผู้เข้าใช้กว่า 250 ล้านครั้งต่อวันเลยทีเดียวครับ
บริการค้นหาข้อมูลของ Google Search แบ่งหมวดหมู่ของการค้นหาออกเป็น 4 หมวดหลักด้วยกัน คือ
1. เว็บ ( Web) เป็นการค้นหาข้อมูลในรูปแบบของเว็บไซต์ต่าง ๆ ทั่วโลก โดยการแสดงผลจะแสดงเว็บไซต์ที่มีคำที่เป็น Keyword อยู่ภายเว็บไซต์นั้น
2. รูปภาพ ( Images) เป็นการค้นหาไฟล์รูปภาพจากการแปลคำ Keyword
3. กลุ่มข่าว ( News Groups) เป็นการค้นหาข่าวสารจากกลุ่มสมาชิกที่ใช้บริการ Google News Groups เพื่อรับส่งข่าวสารกันเองระหว่างสมาชิก โดยมีการระบุชื่อผู้เขียนข่าว , หัวข้อข่าว , วันที่และเวลาที่โพสต์ข่าว
4. สารบบเว็บ ( Web Directory) Google มีการจัดประเภทของเว็บไซต์ออกเป็นหมวดหมู่ ซึ่งผู้ใช้สามารถค้นหาเว็บในเรื่องที่ต้องการตามหมวดหมู่ที่มีอยู่แล้วได้เลยทันทีครับ
2. รูปแบบการค้นหาข้อมูลด้วย Google ที่ควรทราบ
การค้นหาโดยทั่วไปส่วนใหญ่แล้วจะใช้ Keyword เป็นเครื่องมือในการนำทางการค้นหาอย่างเดียว แต่ถ้าผู้ใช้รู้จักใช้เครื่องหมายบางตัวร่วมด้วย ก็จะทำให้ขอบเขตการค้นหาของ Google แคบลง ทำให้ผู้ใช้ได้ข้อมูลที่ตรงกับความต้องการมากขึ้น เครื่องหมายที่สามารถนำมาช่วยในการค้นหาได้ มีดังนี้
- การใช้เครื่องหมายบวก (+) เชื่อมคำ
โดยปกติ Google จะไม่ใส่ใจในในการค้นหาข้อมูลจากการพิมพ์ Keyword ประเภท Common Word( คำง่ายๆ ) เช่น at, with, on, what, when, where, how, the, to, of แต่เนื่องจากเป็นบางครั้งคำเหล่านี้เป็นคำสำคัญของประโยคที่ผู้ใช้จำเป็นต้องค้นหา ดังนั้นเครื่องหมาย + จะช่วยเชื่อมคำ โดยมีเงื่อนไข ว่า ก่อนหน้าเครื่องหมาย + ต้องมีการเว้นวรรค 1 เคาะด้วย เช่น หากต้องการค้นหาเว็บไซต์เกี่ยวกับเกมส์ที่มีชื่อว่า Age of Empire ถ้าผู้ใช้พิมพ์ Keyword Age of Empire Google ก็จะทำการค้นหาแยกคำโดยไม่สนใจคำว่า of และจะค้นหาคำว่า Age หรือ Empire เพียงสองคำ แต่ถ้าผู้ใช้ระบุว่า Age +of Empire Google จะทำการค้นหาทั้งคำว่า Age, of และ Empire ครับ
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข (+)
- ตัดบางคำที่ไม่ต้องการค้นหาด้วยเครื่องหมายลบ ( - )
จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดเรื่องที่ผู้ใช้ไม่ต้องการ หรือไม่เกี่ยวข้องออกไปได้ เช่น ถ้าผู้ใช้ต้องการค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการ ล่องแก่ง แต่ไม่ต้องการ การล่องแก่งที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดตาก ให้ผู้ใช้พิมพ์ Keyword ว่า ล่องแก่ง -ตาก (เช่นเดียวกับเครื่องหมาย + ต้องเว้นวรรคก่อนหน้าเครื่องหมายด้วย) Google จะทำการค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการล่องแก่ง แต่ไม่มีจังหวัดตากเข้ามาเกี่ยวข้อง
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข (-)
- การค้นหาด้วยเครื่องหมายคำพูด ("...")
เหมาะสำหรับการค้นหาคำ Keyword ที่มีลักษณะเป็น ประโยควลีหรือกลุ่มคำ ที่ผู้ใช้ต้องการให้แสดงผลทุกคำในประโยค โดยไม่แยกคำ เช่น ถ้าผู้ใช้ต้องการหาเว็บไซต์เกี่ยวกับเพลงที่มีชื่อว่า If I Let You Go ให้พิมพ์ว่า " If I Let You Go" Google จะทำการค้นหาประโยค " If I Let You Go" ทั้งประโยคโดยไม่แยกคำค้นหา
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข ("...")
- การค้นหาด้วยคำว่า OR
เป็นการสั่งให้ Google ค้นหาข้อมูลเพิ่มมากขึ้น เช่น ถ้าผู้ใช้ต้องการค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับ การล่องแก่ง ทั้งในจังหวัดตาก และปราจีนบุรี ให้ผู้ใช้พิมพ์ Keyword ว่า ล่องแก่ง ตาก OR ปราจีนบุรี Google จะทำการค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการล่องแก่งทั้งในจังหวัดตาก และกาญจนบุรี
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข OR
- ไม่ต้องใช้คำว่า " AND" ในการแยกคำค้นหา
แต่เดิมการใช้ Keyword ที่มากกว่า 1 คำในการค้นหาเว็บไซต์แบบแยกคำ ผู้ใช้จำเป็นต้องใช้ AND ในการแยกคำเหล่านั้นครับ ปัจจุบันไม่ต้องใช้ AND แล้วครับ เพราะ Google จะทำการแยกคำให้โดยอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้ทำการเว้นวรรคคำเหล่านั้น เช่น ถ้าผู้ใช้พิมพ์คำว่า Thai Travel Nature เมื่อคลิกปุ่มค้นหา ก็จะพบว่าในรายชื่อหรือเนื้อหาของเว็บที่ปรากฏจะมีคำว่า Thai ,Travel และ Nature อยู่ในนั้นด้วยครับ
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข AND
- Google จะไม่ใส่ใจใน Common Word
คำศัพท์พื้นๆ อย่าง the, where, is, how, a, to และอื่นๆ รวมทั้งตัวเลขและตัวอักษรเดี่ยวๆ Google มักไม่ให้ความสำคัญและใส่ใจที่จะค้นหาครับ เนื่องจากเครื่องมือที่ Google ใช้จัดเก็บและรวบรวมเว็บทั่วโลกจะค่อนข้างเสียเวลาในการเก็บรวบรวมเว็บที่มีคำเหล่านี้ (ซึ่งมีเยอะมากๆ) แต่ถ้าหากจำเป็น ผู้ใช้จะต้องใช้เครื่องหมาย " + " ในการเชื่อมคำเหล่านี้ด้วยครับ หรืออีกทางก็คือผู้ใช้อาจจะระบุคำที่ต้องค้นหาทั้งหมดในรูปของวลีภายใต้เครื่องหมาย " ……. " ครับ
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข Common Word
- ค้นหารูปได้แสนง่าย
ความสามารถที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ชอบกันนักหนา และสร้างชื่อให้กับ Google ก็คือการค้นหารูปภาพด้วย Google Search ครับ วิธีการใช้ก็คือ
1. คลิกเมนูลิ้งค รูปภาพ จากนั้นก็พิมพ์ชื่อภาพที่ต้องการค้นหา และคลิกปุ่มค้นหารูปภาพ ดังรูป
2. จะปรากฏรูปภาพทั้งหมดที่ต้องการดังรูปครับ
3. เทคนิคการค้นหาข้อมูลด้วย Google แบบพิเศษ
- Google ค้นหาไฟล์ได้
Google สามารถค้นหาไฟล์เอกสารที่สำคัญๆ ได้ดังนี้
Adobe Portable Document Format ( ไฟล์นามสกุล . pdf)
Adobe PostScript ( ไฟล์นามสกุล . ps)
Lotus 1-2-3 ( ไฟล์นามสกุล . wk1, .wk2, .wk3, .wk4, .wk5, .wki, .wks และ . wku)
Lotus WordPro ( ไฟล์นามสกุล . lwp)
MacWrite ( ไฟล์นามสกุล . mw)
Microsoft Excel ( ไฟล์นามสกุล . xls)
Microsoft PowerPoint ( ไฟล์นามสกุล . ppt)
Microsoft Word ( ไฟล์นามสกุล . doc)
Microsoft Works ( ไฟล์นามสกุล . wks, .wps, .wdb)
Microsoft Write ( ไฟล์นามสกุล . wri)
Rich Text Format ( ไฟล์นามสกุล . rtf)
Shockwave Flash ( ไฟล์นามสกุล . swf)
Text ( ไฟล์นามสกุล . ans, .txt)
Adobe PostScript ( ไฟล์นามสกุล . ps)
Lotus 1-2-3 ( ไฟล์นามสกุล . wk1, .wk2, .wk3, .wk4, .wk5, .wki, .wks และ . wku)
Lotus WordPro ( ไฟล์นามสกุล . lwp)
MacWrite ( ไฟล์นามสกุล . mw)
Microsoft Excel ( ไฟล์นามสกุล . xls)
Microsoft PowerPoint ( ไฟล์นามสกุล . ppt)
Microsoft Word ( ไฟล์นามสกุล . doc)
Microsoft Works ( ไฟล์นามสกุล . wks, .wps, .wdb)
Microsoft Write ( ไฟล์นามสกุล . wri)
Rich Text Format ( ไฟล์นามสกุล . rtf)
Shockwave Flash ( ไฟล์นามสกุล . swf)
Text ( ไฟล์นามสกุล . ans, .txt)
รูปแบบของการค้นหาคือ ให้ผู้ใช้พิมพ์ "ชื่อเรื่องหรือชื่อเอกสาร" filetype: นามสกุลของไฟล์ ในช่อง Google ตัวอย่างเช่น "การเลี้ยงไก่" filetype:doc ซึ่งหมายถึง การค้นหาไฟล์เอกสารที่มีนามสกุล . doc เรื่อง การเลี้ยงไก่ นั่นเอง
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข filetype:
- เว็บไซต์ที่ถูกลบไปแล้ว Google ก็ยังค้นหาได้อยู่
เพราะก่อนหน้านี้เว็บไซต์ที่ถูกลบเหล่านั้นได้ถูกบรรจุหรือจัดเก็บไว้ในเครื่องที่เรียกว่า Cache ของ Google ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเองครับ เช่น บางลิงค์ที่ผู้ใช้งานคลิกเข้าชมไม่ได้อันเนื่องมาจากถูกลบออกไปแล้ว ผู้งานก็เพียงแต่คลิกที่เมนู หน้าที่ถูกเก็บไว้ ครับ
ภาพตัวอย่าง
- ค้นหาหน้าเว็บที่มีข้อมูลคล้ายกันได้
ในบางครั้งเมื่อ Cache จะไม่สามารถช่วยผู้ใช้ค้นหาเว็บไซต์นั้นได้ แต่ผู้ใช้งานสามารถค้นหาเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาคล้ายกัน โดคลิกไปยังเมนู หน้าที่คล้ายกัน ครับ
ภาพตัวอย่าง
- Google สามารถค้นหาเว็บทั้งหมดที่เชื่อมมายังเว็บนั้นได้
โดยพิมพ์ link: ชื่อ URL ของเว็บ ในช่อง Search ของ Google เช่น link:www.plawan.com เป็นการค้นหาลิงค์ที่เชื่อมมายังเว็บของปลาวาฬดอตคอมเป็นต้น
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข link:
- Google สามารถหาคำเฉพาะเจาะจงในเว็บไซต์นั้นๆ ได้
โดยพิมพ์ คำที่ค้นหา site: ชื่อ URL ของเว็บ ในช่อง Search ของ Google เช่น Google Earth site:www.kapook.com ซึ่งเป็นการหาหน้าเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับ Google Earth ในเว็บไซต์ของ Kapook นั่งเองครับ
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข site:
- ค้นหาแบบวัดดวงกันบ้าง
จะวัดดวงค้นหาเว็บไซต์ด้วย Google กันสักครั้งคงไม่เป็นไร เพราะถ้าดวงดีผู้ใช้ก็จะได้ไม่เสียเวลามานั่นเลือกให้เมื่อตุ้มครับ โดยพิมพ์ Keyword สำหรับค้นหาเว็บไซต์ที่ต้องการจากนั้นคลิกที่ปุ่ม ดีใจจัง ค้นหาแล้วเจอเลย
ภาพตัวอย่างการใช้ปุ่ม ดีใจจัง ค้นหาแล้วเจอเลย
- ค้นหาบทสรุปของหนังสือก่อนตัดสินใจซื้อ
ก่อนการตัดสินใจที่จะซื้อหนังสือสักเล่ม ผู้ใช้น่าจะทราบก่อนว่าเนื้อหามีอะไรบ้าง หรือมีโอกาสได้ดูสารบัญของหนั้งสือเล่มนั้นเสียก่อนครับ Google Search สามารถบอกผู้ใช้ได้เพียงใส่ชื่อหนังสือหลังคำว่า books about ชื่อหนังสือ เช่น books about Harry Potter
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข books about
- ใช้ Google แทนเครื่องคิดเลขได้
ผู้ใช้สามารถใช้ Google คำนวนตัวเลขด้วยเครื่องหมายในการคำนวนหลักๆ เช่น
+ = บวก
- = ลบ
* = คูณ
/ = หาร
^ = ยกกำลัง
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข Calculator
- ค้นหาความหมายหรือนิยามของศัพท์เฉพาะ(เป็นภาษาอังกฤษ)
Google สามารถค้นหาศัพท์เฉพาะได้ด้วยการพิมพ์ define: ศัพท์เฉพาะ
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข define:
- ค้นหาเว็บไซต์รวมรูปดีๆ
นอกจากการใช้เมนู รูปภาพ ( Images) ในการค้นหารูปภาพแล้ว ผู้ใช้ยังค้นหาภาพได้ด้วยการพิมพ ชื่อภาพ pictures
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข pictures
- ค้นหารีวิวภาพยนตร์สนุกๆ
ผู้ใช้สามารถค้นหารีวิวหรือตัวอย่างภาพยนตร์ด้วย Google ได้ง่ายๆ ด้วยการพิมพ์ movie: ชื่อภาพยนตร์
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข movie:
- ค้นเนื้อหาข้อมูลในเว็บไซต์ที่ต้องการ
ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลเฉพาะในเว็บไซต์ที่ต้องการได้ โดยการพิมพ์ ชื่อข้อมูลค้นหา site: เว็บไซต์ที่จะค้นหา ยกตัวอย่างเช่น การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ Spyware ในเว็บไซต์ของกระปุก โดยการพิมพ์ Spyware site: kapook.com
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข การค้นเนื้อหาข้อมูลในเว็บไซต์ที่ต้องการ
4. การค้นหาข้อมูลแบบละเอียด( Advance Search)
เพื่อความแม่นยำในการค้นหาข้อมูล ผู้ใช้สามารถกำหนดเงื่อนไขในแบบที่ละเอียดได้ไม่ยากครับ เพราะ Google ได้เพิ่มรูปแบบในการกำหนดเงื่อนไขสำเร็จรูปมาให้เรียบร้อยแล้ว โดยคลิกไปยังเมนู ค้นหาแบบละเอียด ด้านขวามือ ก็จะเข้าสู่หน้าค้นหาดังรูป
รูปแบบการค้นหาข้อมูลของ Google ในแบบสำเร็จรูปนี้ค่อนข้างใช้งานง่ายครับ เนื่องจากเป็นภาษาไทยทั้งหมด ผู้ใช้เพียงพิมพ์ Keyword ที่ต้องการค้นหากอรปกับใช้ตัวเลือกด้านล่างเพื่อให้ขอบข่ายการหาเฉพาะเจาะจงในสิ่งที่ต้องการครับ
ที่มาhttp://www.kapook.com/google/showcontent.php?content_id=2
วันพุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)